สหภาพยุโรป (European Union : EU)
ที่มา
![]() |
สัญลักษณ์ของสหภาพยุโรป |
สัญลักษณ์
มีลักษณะเป็นดาวสีทอง 12 ดวง ล้อมกันเป็นวงกลมบนพื้นสีน้ำเงิน วงกลมหมายถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของชาวยุโรป จำนวน 12 ดวงของดาวสื่อถึงความครบถ้วนและสมบูรณ์แบบตามวัฒนธรรมยุโรป เช่น 12 เดือนเป็น 1 ปี หรือ 12 ชั่วโมงของหน้าปัดนาฬิกา เป็นต้นวัตถุประสงค์
1. เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในหมู่ประเทศสมาชิก ในการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และการปกครองในระบอบประชาธิปไตย2. เพื่อยกระดับการดำรงชีวิตและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชากรในยุโรปให้สูงขึ้น
3. เพื่อกำจัดอุปสรรคทางการค้าระหว่างกัน และกำหนดให้ใช้เงินตราสกุลเดียวกัน คือเงินยูโร เพื่อให้การเงินเป็นระบบเดียวกันและใช้เป็นสื่อกลางในการค้าระหว่างประเทศสมาชิก
สถานะและความสำคัญของสหภาพยุโรป
1. เป็นการรวมกลุ่มระดับภูมิภาคที่ใหญ่ที่สุดและก้าวหน้าที่สุดในโลก (supranational cooperation) และมีบทบาทสำคัญต่อทิศทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมระดับโลก2. ในด้านเศรษฐกิจ สหภาพยุโรปมี GDP สูง ที่สุดในโลก เป็นตลาดสินค้าและบริการ ตลาดการเงิน และผู้ลงทุนในต่างประเทศที่สำคัญ รวมทั้งมีบรรษัทข้ามชาติระดับโลกเป็นจำนวนมากที่สุด
3. บูรณาการ ของสหภาพยุโรปมีความเข้มแข็งยิ่งขึ้นภายหลังสนธิสัญญาลิสบอนมีผลใช้บังคับ เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ค.ศ. 2009 ซึ่งทำให้สหภาพยุโรปมีสถานะทางกฎหมายอย่างสมบูรณ์ สามารถจัดทำความตกลงกับต่างประเทศ เข้าเป็นภาคีอนุสัญญาระหว่างประเทศ และเป็นสมาชิกองค์การระหว่างประเทศได้
รัฐสมาชิก
รัฐสมาชิกสหภาพยุโรป คือประเทศที่ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป ตั้งแต่การก่อตั้งประชาคมถ่านหินและเหล็กกล้าแห่งยุโรป (ECSC) เป็นต้นมา เดิมทีประเทศก่อตั้งมีเพียง 6 ประเทศ ซึ่งได้มีการขยายสมาชิก โดยที่ครั้งที่ใหญ่ที่สุดเกิดเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2547 ที่มีรัฐสมาชิกเข้าร่วมกว่า 10 ประเทศ ปัจจุบัน สหภาพยุโรปมีรัฐสมาชิกทั้งสิ้น 28 ประเทศ ประกอบไปด้วย ออสเตรีย เบลเยี่ยม บัลแกเรีย โครเอเชีย ไซปรัส สาธารณรัฐเช็ก เดนมาร์ก เอสโตเนีย ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี กรีซ ฮังการี ไอร์แลนด์ อิตาลี ลัตเวีย ลิทัวเนีย ลักเซมเบิร์ก มอลตา เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ โปรตุเกส โรมาเนีย สโลวาเกีย สโลวีเนีย สเปน สวีเดน และสหราชอาณาจักร
นอกจากนี้ การต่อรองและเจรจาให้ประเทศอื่นๆ เข้าเป็นสมาชิกยังคงดำเนินการอยู่เรื่อยๆ ขั้นตอนการขยายสหภาพยุโรปนี้บางครั้งเรียกว่าการรวมกลุ่มยุโรป ก่อนที่จะเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปได้นั้น ประเทศนั้นจะต้องผ่านเงื่อนไขทางเศรษฐกิจและการเมืองที่รู้จักกันดีในชื่อ "เกณฑ์โคเปนเฮเกน" ซึ่งกำหนดไว้ว่าประเทศที่มีสิทธิเข้าเป็นสมาชิกจะต้องเป็นรัฐาธิปัตย์ ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย มีองค์กรที่ส่งเสริมสิทธิเสรีภาพและเคารพต่อกฎหมาย ภายใต้สนธิสัญญาสหภาพยุโรป การขยายสหภาพยุโรปต้องขึ้นอยู่กับข้อตกลงของแต่ละรัฐสมาชิกและผ่านการรับรองจากสภายุโรปอีกด้วย
***ประเทศล่าสุดที่เข้าร่วมสหภาพยุโรป คือ โครเอเชีย เมือวันที่ 1 กรกฎาคม 2556
***มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม
![]() |
คณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป (Council of the European Union) |
![]() |
คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) |
![]() |
รัฐสภายุโรป (European Parliament) |
ความสัมพันธ์ระหว่างสหภาพยุโรปกับประเทศไทย
ภาพรวม

ในขณะที่ สหภาพ ยุโรปให้ความสำคัญต่อไทยว่าเป็นหุ้นส่วนสำคัญของสหภาพยุโรปในภูมิภาคเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในมิติการเมืองและความมั่นคง โดยไทยมีบทบาทสำคัญในภูมิภาคเอเชียรวมทั้งในกรอบอื่นๆ เช่น อาเซียน-สหภาพยุโรป (ASEAN-EU) และในกรอบ ARF (ASEAN Regional Forum) โดยมีความตกลงระหว่างอาเซียนและประชาคมยุโรป พ.ศ. 2523 เป็นกรอบกฎหมายสำหรับความสัมพันธ์กับประเทศไทย ส่วนในระดับทวิภาคีนั้นได้มีการเจรจาอย่างไม่เป็นทางการอย่างต่อเนื่องผ่านการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสประชาคมยุโรป-ไทย ซึ่งนำโดยคณะกรรมาธิการจากฝั่งประชาคมยุโรป ต่อมาในเดือนพฤศจิกายน 2547 คณะมนตรียุโรปจึงได้อนุมัติระเบียบการเจรจาความตกลงว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือ (Partnership and Co-operation Agreement) แบบทวิภาคีกับบางประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ยังไม่มีความตกลงทวิภาคีกับประชาคมยุโรป ซึ่งประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศดังกล่าว และได้มีการประกาศเจตนารมณ์เพื่อเริ่มต้นการเจรจากับประเทศไทย การริเริ่มเช่นนี้ย้ำให้เห็นถึงความตั้งใจของสหภาพยุโรปในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ในระดับทวิภาคีและพันธกรณีในการกระชับความสัมพันธ์กับประเทศไทย ทั้งนี้ทั้งสองฝ่ายยังอยู่ในระหว่างการดำเนินการเจรจา
ยุทธศาสตร์ไทยต่อ EU คือ การเน้นว่าไทยยึดมั่นในคุณค่าประชาธิปไตยและระบบการค้าเสรี เช่นเดียวกับ EU เพื่อให้ EU มีความเชื่อมั่นในเสถียรภาพและความต่อเนื่องของระบอบการ ปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของไทยและเพื่อให้เห็น ไทยเป็นหุ้นส่วนหลักในภูมิภาค ซึ่งจะช่วยในการขยายการค้า การลงทุนการท่องเที่ยว และการรับเทคโนโลยีและนวัตกรรมจาก EU และเพื่อส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยในระยะยาว
ด้านเศรษฐกิจ

มากกว่าครึ่งหนึ่งของสินค้าไทยที่ส่งออกไปยังสหภาพยุโรปได้รับสิทธิพิเศษทางการค้า ไม่ว่าจะเป็นทั้งจากการปฏิบัติเยี่ยงชาติที่ได้รับความอนุเคราะห์ยิ่ง (Most Favoured Nation - MFN) และการยกเว้นภาษีทั้งหมดหรือเสียภาษีเพียงบางส่วนภายใต้ระบบการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไปหรือจีเอสพี (Generalized Scheme of Preferences - GSP) ทั้งนี้ ในบรรดาประเทศคู่ค้าของสหภาพยุโรป ประเทศไทยเป็นประเทศที่ได้รับประโยชน์จากจีเอสพีเป็นอันดับสองรองจากอินเดีย
บรรณานุกรม
1.http://th.wikipedia.org/wiki/ประวัติศาสตร์ยุโรป 2.http://www.learners.in.th/blog/smarch01/384761 3.http://www.learners.in.th/blog/ppt/3626544.http://www.facebook.com/note.php?note_id=170196863035403 5.http://www.mfa.go.th/main/th/world/7/19896-%E0%B8%AA%E0%B8%AB%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%9B-(European-Union----EU).html
6.http://eeas.europa.eu/delegations/thailand/eu_thailand/political_relations/index_th.htm 7.http://graduate.kru.ac.th/eduad/dewey/300/ecc2.html
8.http://europa.eu/
ภาพจาก
1.http://eeas.europa.eu/delegations/thailand/what_eu/eu_memberstates/index_th.htm2.http://en.m.wikipedia.org/wiki/File:European_Union_(blue).svg
3.http://www.thaitextile.org/iu/article_iu.php?id=ARC0121219111323
4.http://www2.thaiembassy.be/th/%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B9%80/%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%AB%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%A2%E0%B8%B8/
5.http://www.theguardian.com/business/2010/may/09/debt-crisis-european-union
6.http://supassara24.blogspot.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น